Review ❥ ไม่พูดถึงไม่ได้แล้ว…ถอดรหัสแป้งผสมรองพื้น THREE ตัวใหม่ เล่นเทคนิคการหักเหแสงเพื่องานปกปิดที่ดี ได้ผิวเสมือนตื่นมาก็สวยเลย!

สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้พิกุลแฮมมีของมารีวิวกันอีกแล้วค่ะ ตัวนี้คือหวีดมาก เพราะเป็นแป้งที่พิกุลเฝ้ารอมานาน มีความพิเศษตรงที่จะมีแป้งที่เป็นทั้งเนื้อแมตต์และชิมเมอร์ในตลับเดียวกันเลย นอกจากแป้งผสมรองพื้นแล้ว พิกุลจะมารีวิวไพรเมอร์ที่ไว้ใช้คู่กันด้วยนะคะ มาดูกันเลยค่ะ

แป้งของ Three รุ่นนี้ชื่อว่ารุ่น “Pristine Complexion Powder Foundation” SPF27 PA+++ รุ่นนี้มีส่วนผสมมาจากธรรมชาติถึง 85% เลยค่ะ ส่วนผสมที่สำคัญจะมีโบทานิคอล ออยล์และสารสกัดจากพืช 9 ชนิด ได้แก่ Grapeseed oil, Avocado oil, Yellow Himalayan raspberry root extract, Tea seed oil, Argan oil, Jojoba oil, Shea butter, Beeswax และ Rosehip extract ค่ะ

อย่างที่บอกไปว่าตัวแป้งจะมีส่วนผสมของแป้งสองชนิด ซึ่งได้แก่

• Slender Matte เป็นเนื้อแป้งโปร่งเบา เนื้อแป้งละเอียด ทาบนผิวแล้วดูละมุนมากๆ ค่ะ ตัวนี้เวลาใช้จะได้ลุคแบบแอรี่ แมตต์ (Airy Matte) สาวๆ ที่ชอบสไตล์การแต่งหน้าแบบโชว์ผิว ต้องชอบแน่ๆ ค่ะ แป้งชนิดนี้จะประกอบไปด้วยอณูแป้ง 5 ชนิดและโมเลกุลออยล์ นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี soft focus effect ที่ช่วยเรื่องการหักเหของแสงบนอณูแป้ง 3 เลเยอร์ด้วยค่ะ เป็นเหตุผลที่ใช้แป้ง Three ตัวนี้แล้วละมุน เบาสบายผิวค่ะ
• Slender Glow เนื้อแป้งประกายชิมเมอร์เนียนละเอียด สามารถใช้เป็นไฮไลท์ได้เลยค่ะ ทาแล้วจะกลมกลืนไปกับผิว ไม่โป๊ะเหมือนใช้ไฮไลท์วิ้งวาวดาวอังคาร แต่จะได้ผิวที่ดูมีมิติ สดใสแทนค่ะ เทคโนโลยีของแป้ง Slender Glow ตัวนี้จะเป็นอณูแป้ง Silky Powder ที่มีความละเอียดสูงและโปร่งแสงสูง สะท้อนแสงได้แบบกระจกใสเลยค่ะ นอกจากนี้ยังมีอณูเพิร์ลจำนวนมากที่ทำงานร่วมกับอณูแป้ง Flaky Powder ยิ่งเติมยิ่งใส ไม่หนาหนักหน้าแน่นอนค่ะ

วิธีใช้แป้งรุ่น “Pristine Complexion Powder Foundation” 

1. เกลี่ยแป้ง Slender Matte ให้ทั่วหน้าแล้วใช้ Slender Glow ทาเฉพาะสันจมูก โหนกแก้ม จะได้ลุคที่สดใส เป็นการสร้างจุดเด่นให้ผิว
2. เริ่มจากแป้ง Slender Glow ไล้บนสันจมูก โหนกแก้ม แล้วค่อยใช้แป้ง Slender Matte ทาให้ทั่วผิวหน้า วิธีนี้จะทำให้โครงหน้าดูได้รูปมากยิ่งขึ้น
3.  ใช้แปรงปัดทั้ง Slender Matte และ Slender Glow ผสมๆ กันแล้วค่อยใช้ Slender Glow เน้นเป็นไฮไลท์อีกที เพื่อความดูเป็นธรรมชาติของผิว

หนึ่งในเคล็ดลับอีกตัวที่ต้องไว้ใช้คู่กันคือแปรงตัวนี้เลยค่ะ ขนแปรงเป็นโพลีเอสเตอร์แต่นุ่มมากๆ ขนาดกำลังพอดีเก็บในตลับแป้งได้ค่ะ ตัวนี้ปลายขนแปรงจะพอดีหน้าของเราเลย พิกุลชอบแปรงมากๆ เลยค่ะ ตอนไปซื้อคือโดนพี่บีเอป้ายยาหนักมาก เพราะตอนแรกเรากะใช้แค่พัฟก็พอเนาะ ไปๆ มาๆ โอเคค่ะ แปรงเลยค่ะ เอาแปรงเลยค่ะพี่ ยอมแล้ว555

มาถึงในส่วนของไพรเมอร์กันบ้างนะคะ ชื่อเต็มๆ คือ “Three Pristine Complexion Veil” ตัวนี้จะเป็นไพรเมอร์สีพีชสามารถใช้ได้ทุกโทนสีผิวเลยค่ะ สามารถช่วยป้องกันแสงแดดได้ด้วย SPF27/PA+++ ค่ะ พิกุลชอบตรงที่สูตรนี้จะเป็นไพรเมอร์ที่ป้องกันการระคายเคืองได้ เพราะไม่มีสารดูดซับรังสี UV ไม่มีพาราเบน ไม่มีน้ำหอมสังเคราะห์และไม่มีมิเนอรัลออยล์ค่ะ

สิ่งที่น่าสนใจของไพรเมอร์ตัวนี้ก็คือ การที่มีคุณสมบัติที่ช่วยให้ผิวของเราดูเปล่งปลั่งได้ยาวนาน บอกเลยว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับเทคโนโลยีล้วนๆ เลยค่ะ เทคโนโลยีเหล่านั้นก็คือ!

• เทคโนโลยี Pristine Fit Powder ที่เป็นการผสมผสานการบำรุงจาก Squalane ที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื่น ทำให้ผิวใส ช่วยเรื่องการยึดเกาะระหว่างผิวกับแป้งผสมรองพื้นอย่างดีเยี่ยม
• เทคโนโลยี Silky Powder เป็นอณูแป้งที่ละเอียดและบางเบา ช่วยให้ผิวหน้าดูเนียนใสอย่างเป็นธรรมชาติ
• เทคโนโลยี anti-dullness effect เป็นพิกเมนท์ขนาดเล็กที่มีความเข้มข้นสูง ตัวนี้จะทำให้ผิวเราใสนานนน ไม่หมองคล้ำระหว่างวันค่ะ

แล้วนี่ก็คือผิวที่ได้ หลังจากใช้ไพรเมอร์และแป้งผสมรองพื้นของ “ Three Pristine Complexion” นั่นเองค่ะ

มาดูเรื่องราคากันบ้างนะคะ อันนี้จะเป็นราคาแนะนำนะคะ ปกติไปซื้อแล้วก็จะลดอีก 10% น้า

• แป้งรุ่น “Pristine Complexion Powder Foundation” รีฟิล ราคา 1,250 บาท (12 กรัม) ส่วนตลับแป้งราคา 650 บาทค่ะ 
• แปรงลงแป้งผสมรองพื้น รุ่น “Pristine Complexion Powder Foundation Brush H” จะราคา 750 บาท 
• ไพรเมอร์ “Three Pristine Complexion Veil” ราคา 1,600 บาท (30 กรัม)

ขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาอ่านรีวิวนี้นะคะ การรีวิวในครั้งนี้เรามารีวิวไว้เป็นแนวทางในการตัดสินใจของทุกคนน้าาา หวังว่าจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย วันนี้ขอลาไปก่อน ไว้เจอกันใหม่รีวิวหน้า สวัสดีค่ะ

 *given-product (not sponsored)

ขอบคุณทางแบรนด์ที่สนับสนุนผลิตภัณฑ์มาให้พิกุลรีวิวให้เพื่อนๆ ดูด้วยนะคะ 🙏🏻😊