สวัสดีค่ะทุกคน มาพบกับพิกุลสายกินคนดีคนเดิม เพิ่มเติมคือน้ำหนักอีกแล้วนะคะ วันนี้พิกุลจะมาแนะนำร้านอร่อย ที่อยากจะชวนทุกๆ คนไปชิมค่ะ ถ้าได้แวะไปแถวนครปฐมหรือนครชัยศรีต้องไปลองร้านนี้กันนะคะ เหตุผลที่ทุกๆ คนควรไปลองชิมอาหารที่ร้านกินในบ้านนครชัยศรีนี้ สามารถสรุปง่ายๆ ได้เป็นพยัญชนะไทย 3 ตัวค่ะ คือ ส.อ.ย. เริ่มสงสัยกันแล้วใช่ไหมคะว่าพยัญชนะไทย 3 ตัวนี้จะหมายถึงอะไรกันบ้าง หาคำตอบได้ในบล็อกนี้เลยค่ะ

พิกุลไปทานอาหารที่ร้านกินในบ้านเมื่อสัปดาห์ก่อน (6 พย. 60) เนื่องจากไปทำบุญกับครอบครัว พอเราไปทำบุญเสร็จก็มักจะไปหาอะไรอร่อยๆ ทานกันค่ะ การเดินทางมาที่นครชัยศรีก็ไม่ยากอะไร พิกุลเดินทางมาบน ถ.เพชรเกษม ทางที่จะไปนครปฐมค่ะ ถ้าจะให้ดีแนะนำเปิด Google Maps นะคะ ถึงแน่นอน55555

ร้านกินในบ้านมีที่จอดรถนะคะ พื้นที่ค่อนข้างใหญ่เลย ถ้าจะให้ประมาณด้วยสายตา พิกุลคิดว่าน่าจะจอดรถได้ถึง 10 คันเลยค่ะ เมื่อมาถึงร้านแล้วจะพบกับตุ๊กตาน้อยสองตัวนั่งตอนรับอยู่ด้านหน้า น่ารักมากๆ เลยค่ะ

ร้านกินในบ้านจะมีอาหารกลางวันไว้คอยบริการ มีทั้งอาหารไทย อาหารไทยอีสาน อาหารฝรั่งพวกสปาเก็ตตี้ สเต็ก กาแฟสด เค้กส้ม เรียกว่ามาร้านเดียวครบครัน ทานกันได้ทั้งครอบครัว อยากทานสไตล์ไหนก็เลือกกันได้เลยค่ะ

มาถึงคำจำกัดความของร้านกินในบ้านที่พิกุลตั้งให้ร้านกันนะคะ กับคำว่า ส.อ.ย. ความหมายของพยัญชนะตัวแรกคือ ส. มาจากคำว่า สวนสวย เนื่องจากร้านนี้เป็นร้านอาหารที่เปิดในบ้าน รอบๆ มีบรรยากาศของสวนที่มีทั้งต้นไม้และดอกไม้ มีโต๊ะด้านนอกสำหรับนั่งเล่น นั่งทานอาหารแบบสบายๆ

เก็บบรรยากาศในสวนมาฝากเพื่อนๆด้วยค่ะ เด็กน้อยที่มาด้วยสนุกสนานมากๆ เลยค่ะ เพราะทางร้านก็มีชิงช้าเหล็กสนามไว้ให้นั่งเล่นอีกด้วย

ดอกไม้เยอะแค่ไหนถามใจเธอดู ดอกไม้ทั้งหมดนี้คือดอกไม้ที่พิกุลเก็บภาพได้ระหว่างรออาหารค่ะ ไม่ใช่ว่ารออาหารนานนะคะถึงเก็บภาพได้เยอะ แต่ดอกไม้ร้านนี้เขาเยอะจริงๆ เดินถ่ายภาพไม่ห่างกันมากค่ะ ได้รูปดอกไม้สวยๆ มาเต็มเลย

ต้องไม่ลืมถ่ายเมนูให้เพื่อนๆ ดูกันเนอะ เห็นไหมล้าา มีทั้งส้มตำ ยำแซ่บ สเต็ก สปาเก็ตตี้ อาหารจานเดียว เมนูหลากหลายน่าทานทั้งนั้นเลยค่ะ


ก่อนจะทานอาหารหนักๆ เราก็มาเริ่มที่ของทานเล่นเบาๆ กันก่อนนะคะ จัดชีสทอดมาเลย จานนี้ชีสจัดเต็มมากๆ ค่ะ เวลามาถึงแล้วควรทานทันทีเพราะว่าชีสกำลังร้อนๆ จะได้ทานชีสแบบยืดๆ ค่ะ

ชีสยืดดดดสมใจอยากทานมากๆ ค่ะ จานนี้ รสชาติอร่อย ไม่อมน้ำมัน ขนาดของแป้งและชีสกำลังพอดี ทานแล้วไม่เลี่ยนดีค่ะ จานนี้ราคา 95 บาทนะคะ

ถัดจากของว่างอาหารทานเล่น เราก็เปลี่ยนโหมดมาสู่อาหารสไตล์ไทยอีสานกันบ้างค่ะ เริ่มที่จานนี้เลย ลาบหมู เสิร์ฟมาพร้อมผักแนม ได้แก่ ใบชะพลูและถั่วผักยาว จานนี้อร่อยมากค่ะ หอมเครื่องเทศ รสชาติจัดจ้าน ถึงใจ สำหรับพิกุลแล้วคิดว่าเผ็ดกำลังพอดีเลยค่ะ คนชอบรสจัดน่าจะถูกใจ

สำหรับใครที่ไม่ทานเผ็ดมาก ลองทานลาบหมูคู่กับใบชะพลู ผักแนมอื่นๆ ก็ได้นะคะ จะช่วยลดความเผ็ดลงบ้าง แต่รสชาติยังอร่อยอยู่ดีค่ะ : ) จานนี้ราคา 65 บาทนะคะ

มาถึงเมนูที่สอง เมนูนี้มาจานใหญ่อลังการมากๆ ค่ะ ชื่อเมนูว่าสลัดหลวงพระบาง เป็นสลัดสูตรออริจินัลแบบฉบับเดียวกับประเทศลาวเลยค่ะ มีจุดเด่นตรงที่ใส่หอมเจียว หมูสับและไข่ต้ม น้ำสลัดจะไม่ใช่แบบครีม เป็นน้ำใสๆ มีรสชาติติดหวานเล็กน้อยค่ะ

ได้มาแล้วก็คลุก คลุกคลุก… โอ้โหหห ผักคุณภาพดี๊ดีเลยค่ะ จานใหญ่ขนาดนี้ แนะนำให้สั่งแล้วทานด้วยกันหลายๆท่านนะคะ ปริมาณเยอะมากๆ เลยค่ะ พิกุลประทับใจเมนูสลัดหลวงพระบางตรงที่แตกต่างจากสลัดที่เราเคยทานที่อื่น ทานแล้วหอมกลิ่นของหอมเจียวมากๆ เมนูนี้ราคา 95 บาทนะคะ

ยังคงอยู่กับเมนูสายแซ่บ จานนี้เป็นเมนูตำไทย ราคา 55 บาทค่ะ รสชาติกำลังพอดี ไม่หวาน ไม่เค็มเกินไป พิกุลประทับใจกุ้งแห้งมาก เพราะว่าตัวใหญ่ทานแล้วเต็มปากเต็มคำเลยค่ะ

อีกหนึ่งเมนูที่อยากแนะนำให้เพื่อนๆ สั่งมาลองทานกันคือ ยำเส้นแก้วค่ะ พิกุลเพิ่งเคยทานเส้นแก้วครั้งแรก อร่อยมากค่ะ กรอบๆ ดี รู้สึกว่าอร่อยกว่ายำวุ้นเส้นธรรมดาๆ อีกนะคะ จานนี้ราคา 89 บาทค่ะ

เรามาลองเปลี่ยนโหมดกันบ้างเนอะ มาลองอาหารฝรั่งกันบ้าง จานแรกนี้เป็นเมนูที่ชื่อว่าสเต็กปลาดอรี่มะนาว จานนี้ราคา 120 บาทค่ะ มีปลาดอรี่ชิ้นใหญ่ๆ มาสองชิ้นเลยค่ะ ทานคู่กับสลัดผักที่เคียงกันมาในจาน รสชาติดีทีเดียวค่ะ

สเต็กอีกจานที่พิกุลสั่งมานี้จะเป็นสเต็กหมูค่ะ จัดการราดซอสพริกไทยดำให้ชุ่มเลยค่ะ เนื้อสเต็กนุ่มกำลังพอดี โดยส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าชอบทานซอสพริกไทยดำมากที่สุดค่ะ จานนี้ราคา 145 บาทนะคะ

ร้านกินในบ้านจะมีซอสสเต็กให้เลือก 3 แบบนะคะ คือ ซอสมะนาว ซอสบาร์บีคิวและซอสพริกไทยดำค่ะ

เมนูต่อไปยกมาแล้วค่าาาากับเมนูสปาเก็ตตี้คาร์โบนาร่า จานนี้ราคา 100 บาท คนที่ชอบคาโบนาร่าน่าจะถูกใจนะคะ เพราะว่าเป็นคาโบนาร่าแบบสูตรดั้งเดิม คือไม่ใช่เป็นครีมน้ำแบบแฉะๆ เอียนๆ แต่คาโบนาร่าจานนี้จะเป็นแบบครีมเคลือบเส้น ทานแล้วอร่อยดีค่ะ ยิ่งทานพร้อมกับแฮมกรอบๆ นี่อร่อยมากๆ เลยค่ะ

ลองถ่ายรูปให้ดูแบบใกล้ๆนะคะ จานนี้เป็นคาโบนาร่าที่ไม่เหมือนที่อื่น ไม่แฉะ ไม่เลี่ยนเลยค่ะ

มาต่อกันที่อาหารจานเดียวกันบ้างนะคะเพื่อนๆ จานนี้เป็นข้าวเขียวหวานไก่ ไข่ดาว ราคาจานละ 65 บาท จานนี้ก็เป็นอีกจานที่อร่อยมากๆ ค่ะ แบบว่าหอมเครื่องแกงมาก ทานเพลินๆ แป๊บเดียวหมดเลยค่ะ จานนี้มาพร้อมน้ำซุปด้วยนะคะ พิกุลทานจานนี้คนเดียวเลย ฮ่าๆ

ถ่ายรูปรวมอาหารที่สั่งมาวันนี้ให้เพื่อนๆ ได้ดูกันด้วยค่ะ
ความหมายของพยัญชนะตัวที่สอง ของคำจำกัดความของร้าน ส.อ.ย. คือ อ. มาจากคำว่า อิ่มอร่อยค่ะ สั่งมาเยอะมาก อิ่มแน่นอนค่าาา นอกจากอิ่มแล้วยังอร่อยด้วยนะคะ ชอบๆ ค่า ถ้าได้มาแถวนครชัยศรีอีกต้องแวะมาทานแน่ๆ ค่ะ

ถ่ายภาพคุณน้าคนสวย ขณะที่กำลังมีความสุขกับเมนูสลัดหลวงพระบาง

เพื่อนๆที่มาทานอาหารที่ร้านกินในบ้าน พิกุลแนะนำเลยนะคะ เครื่องดื่มที่ต้องสั่งคือ น้ำส้มคั้น น้ำส้มจัดเต็มมากๆ ค่ะ จากการที่คุยกับทางร้านทราบมาว่าไม่มีการผสมน้ำตาลเลยค่ะ รสชาติดีมากกก ขวดละ 25 บาทเท่านั้น อร่อยมากๆ ค่ะ ตอนนี้อยากทานอีกแล้ว

ทานอาหารกันจนจะอิ่มแล้ว เราก็มาสั่งน้ำดื่มอื่นๆลองดื่มกันนะคะ เริ่มจากการดูเมนูกันก่อนเลย


2 แก้วที่สั่งมานี้คือเมนู กีวี่โซดาและสตรอว์เบอร์รีโซดาค่ะ 2 แก้วนี้ราคาแก้วละ 50 บาทนะคะ รสชาติดีค่ะ ส่วนตัวพิกุลได้ลองชิมสตรอว์เบอร์รีโซดาอยู่บ้าง แต่เด็กน้อยที่มาด้วยกัน รู้สึกว่าจะชื่นชอบสตรอว์เบอร์รีโซดามากๆ ค่ะ ส่วนอีกแก้วเป็นของคุณน้าค่ะ



อีก 2 แก้วที่สั่งมาแล้วก็ตามกันมาแบบติดๆ จะเป็นโก้โก้เย็นของพิกุลเองและกาแฟ Signature No.1 ของคุณแม่ค่ะ รสชาติของโกโก้เข้มข้นดีค่ะ ทานจนหมดแก้วเลยแหละ ส่วนกาแฟคุณแม่ก็บอกว่าอร่อยดีค่ะ กาแฟรสชาติเข้มเลยแหละ

เมื่ออิ่มอาหารคาวแล้วเราก็ต้องจัดอาหารหวานกันนะคะ ของหวานที่สั่งมาคือเค้กส้มค่ะ พิกุลแอบเห็นรูปเค้กส้มในเพจร้านอยู่ เลยลองสั่งมาดู อยากจะบอกว่า เนื้อด้านในของเค้กส้มนุ่มมากๆๆๆๆๆ ค่ะ คือพิกุลติดใจรสชาติของเค้กส้มและอาหารที่นี่มาก คือบอกเลยว่าต้องมีซ้ำ ต้องมีชวนเพื่อนๆ ไปทานอีกรอบแน่นอนค่ะ

มาถึงคำจำกัดความ ส.อ.ย. กับความหมายของพยัญชนะตัวที่สุดท้าย คือ ย. มาจากคำว่า เยอะแยะค่ะ อาจจะใช้คำไม่สวยหรูเนอะ แต่ว่าเยอะแยะนี่คือ รายการอาหาร เครื่องดื่มขนมเยอะแยะมากๆ ค่ะ เรียกว่ามาแล้วอยากทานแนวไหน ประเภทอะไรก็เลือกได้แบบครบๆ เลยค่ะ ช๊อบบบชอบ

รีวิวจัดเต็มกันมากๆ เลย หวังว่าจะเป็นประโยชน์และช่วยในการตัดสินใจของเพื่อนๆ กันได้นะคะ ถ้าใครสนใจไปลองชิมอาหารที่ร้านกินในบ้าน พิกุลแนะนำให้เพื่อนๆ เข้าไปเยี่ยมชมแฟนเพจของร้านได้ที่ Kinnaibaan นะคะ
วันนี้พิกุลขอจบการรีวิวไว้เพียงเท่านี้ ไว้เจอกันใหม่บล็อกหน้านะคะ สวัสดีค่าาาา
มาเป็นเพื่อนกับพิกุลได้ที่
Facebook : pikulham
Twitter : pikulham
Instagram : pikulham
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น