สวัสดีค่าาาทุกคน วันนี้พิกุลจะมาชวนทุกคนมาทานอาหาร เมนูต้นตำรับความอร่อยของร้านสีฟ้าที่แสนจะโด่งดัง การทานอาหารครั้งนี้ต้องขอบคุณสีฟ้าที่เชิญพิกุลไปร่วมชิมอาหารกับพี่ๆ บล็อกเกอร์ท่านอื่นๆ ด้วยนะคะ
เมนูต้นตำรับความอร่อยของร้านสีฟ้า จะมี 4 เมนูค่ะ ได้แก่ ผัดไทยกุ้งสดสูตรมะนาว บะหมี่แห้งอัศวิน ข้าวอบเต้าหู้หมูแดง และข้าวหน้าไก่ราชวงศ์ไข่ดาว วันนี้พิกุลจะพามาชิม 3 เมนูสุดอร่อย พิเศษด้วยอีกหลายหลายเมนูแนะนำที่ควรมาลองทานที่ร้านสีฟ้าค่ะ จะมีอะไรบ้างมาดูกันเลยดีกว่า!

ประวัติร้านสีฟ้า
ร้านสีฟ้านี้มาประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 80 ปี โดยเริ่มจากการขายไอศกรีม กาแฟและผลไม้แช่แข็ง ภายหลังมีการขยับขยายร้านให้มีจำนวนห้องมากขึ้นและเริ่มทำอาหารคาวจำหน่าย ในอดีตย่านราชวงศ์ถือว่าเป็นย่านของคนชั้นสูงจึงทำให้มีแต่คนมีระดับมารับประทาน จึงมีการขยับขยายร้านอีกครั้งและทาสีผนังใหม่เป็นสีฟ้า ทำให้ผู้คนทั่วไปที่ผ่านมาเห็นเรียก ร้านอาหารแห่งราชวงศ์นี้ว่า “สีฟ้า”

พิกุลมาทานอาหารที่ร้านสีฟ้าสาขาพระราม 9 ตั้งอยู่ที่อาคาร The Ninth Towers ชั้น G อาคารนี้จะอยู่หลังเซ็นทรัลพระราม 9 ค่ะ เดินเข้ามาในร้านเราก็จะเห็นกระดาษแนะนำเมนูบนโต๊ะของเดือนตุลาคมที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับ 4 เมนูอร่อยต้นตำรับที่ได้รับการรีวิวสูงสุกจากแฟนประจำของสีฟ้า ที่ท้าให้ทุกคนลอง

พิกุลแนะนำทุกคนๆ สั่งเกี๊ยวกรอบมาทานระหว่างรออาหารกันก่อนนะคะ กรอบอร่อย ทานแล้วเพลินมากๆ ค่ะ แป้งที่ใช้ทำเกี๊ยวกรอบคือแป้งชนิดเดียวกับแป้งบะหมี่ของสีฟ้าที่ทำมาจากไข่ล้วนๆเลยค่ะ แม้จะตั้งทิ้งไว้จนเย็นก็ยังกรอบอร่อย ไปรับประทานอาหารที่สีฟ้ารอบหน้า อย่าลืมสั่งเกี๊ยวกรอบมาทานกันนะคะ (เกี๊ยวกรอบจานนี้ราคา ราคา 70 บาทนะคะ)

จานแรกใน 4 เมนูต้นตำรับที่ต้องลองคือผัดไทยกุ้งสดค่ะ อาจจะดูแบบทั่วๆไป เอ้… ที่ไหนก็มีผัดไทย ผัดไทยที่ร้านสีฟ้าต่างจากที่อื่นยังไง? คำตอบก็คือ ผัดไทยกุ้งสดที่ร้านสีฟ้าจะเป็นผัดไทยสูตรมะนาว จานนี้ไม่ต้องปรุงเพิ่มเลยค่ะ เพราะว่าทางร้านจะปรุงผัดไทยมาให้เรียบร้อย มีความหวานจากน้ำตาลปี๊บและมีความเปรี้ยวจากมะนาว พร้อมด้วยรสเค็มและเผ็ดน้อยๆ กำลังพอดีเลยค่ะ

สิ่งที่พิกุลประทับใจอีกเรื่องหนึ่งคือ กุ้งค่ะ กุ้งตัวใหญ่มากกก แถมที่นี่ไม่มีการใช้อาหารแช่แข็งเลย ได้ทานกุ้งสดแบบสดจริงๆ แล้วอร่อยมาก (ทานกุ้งแช่แข็งบ่อยๆ แล้วรู้ถึงความแตกต่างเลยค่ะ) นอกจากการใช้กุ้งสดแล้วเส้นที่ใช้ผัดผัดไทยก็เป็นเส้นสดเช่นกันค่ะ เนื้อสัมผัสนี้นุ่มเนียน โดยวิธีการทำจะเริ่มจากการนำเส้นมาผัดให้เกรียมเล็กน้อยกับมันกุ้ง จานนี้ราคาอยู่ที่ 155 บาทค่ะ

เมนูที่สองที่เป็นเมนูต้นตำหรับคือ บะหมี่แห้งอัศวิน บะหมี่ชามนี้จะเป็นบะหมี่ไข่เป็ดเส้นเล็กๆ แบนๆ ที่สีฟ้าทำเส้นขึ้นมาเอง เวลารับประทานจะได้กลิ่นหอมของไข่ในเส้นบะหมี่ บะหมี่แห้งอัศวินนี้ถือเป็นเมนูเด่นประจำร้านที่ทั้งอร่อยและครบเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น ลูกชิ้นเนื้อปลาแท้ ลูกชิ้นกุ้ง เกี๊ยวปลา แผ่นเกี๊ยว ฮื่อก้วยทอด หมูแดงและเป็ดย่าง เรียกได้ว่าเครื่องแน่นจนกลบเส้นบะหมี่จนเกือบมองไม่เห็นเส้นบะหมี่เลยค่ะ
พิกุลแนะนำให้ทุกๆ คนทานบะหมี่อัศวินแบบแห้งนะคะ เพราะจะอร่อยกว่าทานแบบน้ำค่ะ แต่ถ้าใครชอบซดน้ำซุปร้อนๆ จริงๆ แนะนำให้สั่งเกี๊ยวปลาน้ำมาทานคู่กัน คู่นี้ฟินนนนนลืมมากๆค่ะ บะหมี่แห้งอัศวินชามนี้ ราคา 125 บาทค่ะ

อีกหนึ่งเมนูต้นตำหรับที่พลาดไม่ได้ คือเมนูข้าวหน้าไก่ราชวงศ์ไข่ดาวที่โด่งดังจนกลายเป็นชื่อเรียกติดปาก จานนี้จะใช้ไก่ที่เป็นเนื้อบริเวณน่อง เนื้อไก่นุ่ม รสชาติไม่หวานจนเกินไป อร่อยกำลังดีเลยค่ะ ไข่ที่นำมาทำเป็นไข่ดาวของร้านสีฟ้าใช้จะเป็นไข่คุณภาพของ S Pure ทานได้อร่อย ไร้กังวล ข้าวหน้าไก่ราชวงศ์ไข่ดาวจานนี้ ราคา 95 บาทค่ะ

จานต่อมาแม้จะไม่ได้อยู่ในเมนูต้นตำรับ 4 เมนูซึ่งเป็นโปรโมชั่นในเดือนตุลาคม 2560 นี้ แต่ก็เป็นเมนูเด็ดที่แนะนำให้ทุกคนมาลองกันค่ะ เมนูชื่อว่า ก๋วยเตี๋ยวแห้งเนื้อสับ ทางร้านจะใช้เส้นใหญ่ลวกแล้วใส่ซีอิ้วดำคลุกด้วยกระเทียมเจียว ตั้งฉ่าย ราดด้วยเนื้อสับผัดกับผงกะหรี่ที่แห้ง เวลารับประทานต้องคลุกเครื่องปรุงทั้งหมดให้เข้ากันนะคะ ไข่แดงจะทำให้ก๋วยเตี๋ยวข้นขึ้นและอร่อยมากยิ่งขึ้นค่ะ

แนะนำกันไปแล้ว 4 เมนูเด็ดๆ ยังค่ะ เมนูอร่อยๆ ของร้านสีฟ้ายังไม่หมดเพียงเท่านี้ มาดูกันต่อเลยว่าจะมีเมนูอะไรบ้าง…

เมนูข้าวไข่ข้นกุ้งก็เป็นเมนูที่ได้รับความนิยมในหมู่เด็กและผู้ใหญ่เลยค่ะ ของจริงจานใหญ่มาก ทานกับซอสอร่อยมากๆค่ะ ข้าวไข่ข้นกุ้งจานนี้ราคา 125 บาทนะคะ

อีกหนึ่งเมนูเสริมที่ควรสั่งมาทานกับข้าวไข่ข้นกุ้งคือแกงเผ็ดเป็ดย่างค่ะ แกงชามนี้ทานกับข้าวข้นกุ้งจะเข้ากันมากๆ บางคนทานเฉพาะข้าวไข่ข้น อาจจะรู้สึกว่าคนข้างจืดไป ถ้าได้แกงเผ็ดเป็ดย่างมาเติมเต็มความเผ็ดสักหน่อย อร่อยลืมมเลยค่ะ

ให้อภัยความเลอะเทอะของจานพิกุลด้วยนะคะ อยากถ่ายให้เห็นขนาดของเนื้อเป็ดค่ะ ชิ้นใหญ่ น่าทานมากเลยใช่ไหมล่ะะะะะ

โอ้ยยยจานนี้ก็อร่อย หมูสะเต๊ะ ที่เป็นอาหารคู่บุญของร้านสีฟ้าอยู่มา 80 ปีแล้วค่ะเมนูนี้ เมนูนี้มีจุดเด่นอยู่ที่ทางร้านจะใช้เนื้อหมูสันนอกแล่เป็นชิ้นเต็มๆ แล้วเสียบไม้ เนื้อหมูนุ่ม ทานอร่อยแบบเต็มปากเต็มคำดีค่ะ หมูสะเต๊ะสูตรต้นตำรับนี้ ราคา 140 บาทนะคะ

น้ำจิ้มหมูสะเต๊ะสูตรดั้งเดิมก็อร่อย ไม่หวานเกินไป จานนี้ให้สามผ่านเลยค่ะ

มาถึงเมนูของทานเล่นที่อร่อยอีกหนึ่งจาน จานนี้เพื่อนๆ พอมองออกไหมคะว่าจะเป็นเมนูอะไร มาๆ เฉลยเลยแล้วกัน เมนูนี้คือ ขนมจีบปั้นสดทอดค่ะ ด้านในประกอบไปด้วยหมู กุ้ง หน่อไม้และต้นหอม จานนี้ราคา 90 บาทค่ะ

คีบ วนไปค่ะ คีบไปคีบมา เผลอแว๊บเดียว ขนมจีบจะหมดแล้ว ขนมจีบทอดกรอบๆ ทานแล้วเพลิน อร่อยดีค่ะ ขนาดค่อนข้างเล็กนะคะ 1 ชิ้นต่อ 1 คำเลยค่ะ

อาหารเยอะมากก มีอาหารอร่อยๆ หลากหลายเมนูมากๆ ค่ะ มาลองดูอีกจานที่เป็นตำนานเหมือนกันคือ ‘อีหมี่’ ใจเย็นๆ นะคะ อันนี้ไม่ได้เรียกจิกหัวใคร แต่เป็นชื่อเมนูของร้านสีฟ้าจานนี้เลยค่ะ จานนี้เสิร์ฟมาในหม้อดินที่เก็บความร้อนได้ดี น่าทานมากๆ เลยค่ะ เมนูนี้เป็นเมนูโบราณที่ไม่ค่อยได้เห็นกันแล้ว ต้องมาลองชิมกันดูนะคะ…

ตัวเส้นของอีหมี่จะเป็นบะหมี่ไข่ล้วนที่ทางร้านใช้เทคนิคการนวดด้วยไม้แบบโบราณ แล้วนำไปทอดกรอบ ต่อจากนั้นอบเส้นบะหมี่พร้อมกับน้ำซุปในหม้อดิน ซึ่งการปรุงอาหารด้วยวิธีนี้ จะทำให้น้ำซุปจะแทรกซึมเข้าไปในเส้น ทำให้เส้นชุ่มฉ่ำนุ่มเหนียวและมีความมันเคลือบอยู่ ด้านบนของอีหมี่จะโรยหน้าด้วยแฮมและไก่ฉีกค่ะ รสชาติจะเค็มเล็กน้อย กลมกล่อม จานนี้เหมาะกับเด็กๆ เหมือนกันค่ะ ทานง่าย ไม่เผ็ดเลย

ทานคาวเรียบร้อยแล้ว เราก็ต้องทานหวานกันต่อค่ะ มาค่ะ มาจัดไอศกรีมทุเรียนกันหน่อย ที่จริงพิกุลเป็นคนไม่ทานทุเรียนค่ะ ไม่ทานเลยจริงๆ แต่เคยได้ยินชื่อเสียงไอศกรีมทุกเรียนของร้านสีฟ้ามา เลยคิดว่า เอาน่ะ ลองดู อยากรู้ว่าจะเป็นยังไง ก็เลยตัดสินใจลองชิมไอศกรีมทุเรียนค่ะ

ลองตักขึ้นมาชิม เอ้ะ… อร่อยแฮะ กลิ่นทุเรียนไม่แรงมากค่ะ หวานหอม กำลังพอดี ไม่คิดเลยว่าตัวเองจะทานทุเรียนได้ 555 ถึงแม้จะเป็นแค่ไอศกรีมทุเรียนก็ตาม อร่อยจริงๆ ค่ะถ้วยนี้ แนะนำให้ลองเลย (ไอศกรีมทุเรียน ราคา 95 บาทนะคะ)

ไอศกรีมอีกถ้วยที่น่าสนใจคือ ไอศกรีมกะทิบัวลอยเผือกค่ะ แต่ถ้วยนี้พิกุลไม่ได้ชิมนะคะ ถ้าใครไปชิมแล้ว แวะมาบอกกันบ้างน้าาา ว่ารสชาติเป็นยังไง อร่อยแค่ไหน ><

ไม่หมดแค่ไอศกรีมค่ะ เรามาต่อกันที่ข้าวเหนียวมะม่วง ร้านสีฟ้าจะใช้มะม่วงน้ำดอกไม้แช่เย็นคู่กับข้าวเหนียวมูน อร่อยมากๆ ค่ะ ความสุกของมะม่วงกำลังพอดี ข้าวเหนียวเม็ดสวย ไม่แฉะเลยค่ะ กลิ่นหอมหวานมากๆ ฮือออ อยากทานอีกแล้ววว

ทานผลไม้มีประโยชน์มากมาย ไม่อ้วนหรอกเนอะ5555

ถ่ายไว้อีกสักภาพก่อนที่จานนี้จะกลายเป็นอาหารว่าง อาหารร้านสีฟ้าอร่อยมากๆ ค่ะ พิกุลติดใจเลย ไว้เดี๋ยวจะพาคุณแม่ไปทาน ท่านต้องชอบแน่ๆ
ตอนนี้สาขาของร้านสีฟ้า มีอยู่ทั้งหมด 19 สาขานะคะ ได้แก่ สาขาสยาม, ธนิยะ, พหลโยธิน 37, เมเจอร์รัชโยธิน, ทองหล่อ, แฟชั่นไอส์แลนด์, โลตัสพระราม 4, โลตัสพระราม 3,เทอร์มินัล 21, โลตัสประชาชื่น, โลตัสลาดพร้าว, ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต, เซ็นทรัลเวิลด์, เอสพลานาด รัชดา, เอสพลานาด งามวงศ์งาน-แคราย, เดอะเซอร์เคิล ราชพฤกษ์, โรงพยาบาลรามาธิบดี, พระราม 9 และสาขาสาธร ซึ่งตอนนี้สีฟ้ามีสาขาเฉพาะในกรุงเทพมหานครเท่านั้นค่ะ

พิกุลขอขอบคุณสีฟ้าที่ให้เกียรติเชิญพิกุลมาชิมเมนูต้นตำรับในครั้งนี้นะคะ การเขียนบล็อกครั้งนี้ไม่ได้รับค่าจ้างในการเขียน ทั้งหมดเป็นความรู้สึกและเขียนจากประสบการณ์ที่พิกุลได้รับค่ะ ถือว่าประทับใจมากเลยทีเดียวและรู้เลยว่าจะต้องกลับไปทานอาหารที่ร้านสีฟ้าอีกแน่ๆ ค่ะ ติดใจมากกกก ><
วันนี้พิกุลขอจบการรีวิวไว้เพียงเท่านี้ ไว้เจอกันใหม่บล็อกหน้านะคะ สวัสดีค่าาาา
มาเป็นเพื่อนกับพิกุลได้ที่
Facebook : pikulham
Instagram : pikulham
Twitter : pikulham
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น