ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Review ❥ ผิวแพ้ง่ายต้องอ่าน! รีวิวเซ็ทดูแลผิวหน้าจาก Repleo


     สวัสดีค่าาา วันนี้พิกุลมีรีวิวดีๆ มาฝากทุกคนกันอีกแล้วค่าาา อ่านกระทู้นี้คุ้มมาก เพราะจะรีวิวผลิตภัณฑ์เวชสำอางจาก Repleo กันแบบครบเซ็ท 3 ชิ้น จะมีอะไรบ้างมาดูกันเลยค่ะ…


     กล่องแรกด้านซ้ายคือ “Repleo 2 in 1 cream” เป็นครีมบำรุงผิวแบบ 2 in 1 ค่ะ ส่วนกล่องกลางจะเป็น “Repleo Cleanser” ซึ่งเป็นเจลล้างหน้าที่ทำความสะอาดผิวหน้าและเมคอัพอย่างอ่อนโยน และกล่องสุดท้ายด้านขวามือ คือ “Repleo Essence Plus” เป็นเอสเซ้นส์บำรุงผิวหน้าสูตรอ่อนโยนค่ะ


     “FOR SENSITIVE SKIN” คือคีย์เวิร์ดสำคัญของสินค้าจากแบรนด์ Repleo ผลิตภัณฑ์ทั้ง 3 ตัวเป็นสูตรอ่อนโยนที่เหมาะกับสาวๆที่ผิวแพ้ง่ายค่ะ เอ้…ที่จริงพิกุลต้องบอกว่า Repleo เหมาะกับทุกสภาพผิวมากกว่า55 เพราะถ้าคนผิวแพ้ง่ายใช้ได้แล้ว สภาพผิวแบบอื่นๆก็สามารถใช้ได้ค่ะ สบายใจหายห่วง 

     ชื่อแบรนด์ “Repleo” 
     เพื่อนๆ อ่านชื่อแบรนด์นี้ว่าอย่างไรกันบ้างคะ ตอนที่พิกุลเห็นครั้งแรก แอบอ่านผิดด้วยค่ะ แฮ่ๆ เลยจะขอเขียนเพิ่มเติมไว้เนอะเรื่องชื่อแบรนด์ Repleo อ่านว่า รีพลีโอ ค่ะ รีพลีโอ.. รีพลีโอ.. รีพลีโออออออ… เฮ้!! 


     มาเริ่มรีวิวที่ชิ้นแรกกันเลยค่ะ “Repleo 2 in 1 cream” ซึ่งเป็นครีมบำรุงสำหรับผิวบอบบาง 2 ขั้นตอนในขวดเดียว โดยแบ่งเป็น 2 Step ค่ะ คือ Step 1 ฟื้นบำรุงและ Step 2 คือผิวนุ่มชุ่มชื่น เวลาใช้ทำแค่เพียงกดครีมลงบนฝ่ามือเพียงเล็กน้อย ทาทั่วหน้าเป็นประจำเช้า-เย็นค่ะ
      จุดเด่นของครีม Repleo 2 in 1 นี้คือไม่มีพาราเบน ไม่มีแอลกอฮอลล์ ไม่มีสเตียรอยด์ ไม่มีน้ำหอมและปลอด AHA BHA ค่ะ ด้วยเหตุผลนี้ผลิตภัณฑ์ของ Repleo จึงเหมาะกับสาวๆที่ผิวบอบบางแพ้ง่ายมากๆ ค่ะ


     บรรจุภัณฑ์ของ “Repleo 2 in 1 cream” จะเป็นหลอดยาวๆ แบ่งครีมออกเป็น 2 ฝั่งอย่างที่กล่าวไป 
     Step 1 คือ “Repleo mild natural Q10 cream” ภาษาไทยก็จะใช้ชื่อแบบทับศัพท์เลยค่ะ คือ รีพลีโอ มายด์ เนเชอรัล คิวเท็น ครีม 


     ฝาของ Step 1 คือ Repair หรือการฟื้นบำรุงผิวนั่นเองค่ะ โดยเนื้อครีมจะสีเหลืองอ่อนๆ เนื้อสัมผัสค่อนข้างข้น เกลี่ยง่าย ซึมไว แต่ว่าไม่มีกลิ่นนะคะ เพราะ Repleo ไม่มีการใส่น้ำหอมค่ะ 


     Step 1 นี้จะเป็นการ Repair ผิว โดยที่เนื้อครีมจะมีส่วนช่วยเรื่องการลดรอยแดง ลดเลือนความหมองคล้ำ ช่วยเรื่องผิวกระจ่างใส การชะลอริ้วรอยที่จะเกิดขึ้นก่อนวัยและช่วยเรื่องผิวเรียบเนียนค่ะ


     จบ Step 1 ไปแล้วเรามาลองดู Step 2 กันต่อเลยดีกว่าค่ะ
     Step 2 ขั้นตอนของการ Protect นี้มีชื่อว่า “Repleo intensive facial moisturizer” ซึ่งเป็นมอยเจอร์ไรเซอร์เข้มข้นสำหรับการบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้านค่ะ อย่างที่เรารู้ๆ กันเนอะ ว่าพอผิวชุ่มชื้นก็จะส่งผลให้เราแต่งหน้าง่าย เครื่องสำอางก็ติดทนมากกว่าเดิม พิกุลชอบเรื่องการบำรุงผิวหน้าเป็นพิเศษเลยซีเรียสเรื่องนี้ค่ะ เรียกได้ว่าเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับการบำรุงผิวมากกว่าการแต่งหน้าอีกค่ะ555


     เนื้อครีม Step 2 จะเป็นเนื้อครีมสีขาว เข้มข้นแต่เกลี่ยง่ายอยู่ค่ะ ซึมซับไวดี ตัวนี้ไม่มีกลิ่นเหมือนเดิมค่ะ 
     ความรู้สึกส่วนตัวต่อ “Repleo 2 in 1 cream”
     การใช้งานสะดวกมากกก หัวปั๊มกดง่าย ไม่แข็ง เนื้อสัมผัสครีมดีมากๆ เลยค่ะ เนื้อสัมผัสดีแบบเคาน์เตอร์แบรนด์เลย ขวดเป็นแบบแนวตั้งวางหน้ากระจกแล้วประหยัดพื้นที่ดี ครีมทั้งสองสเต็ปอยู่ในขวดเดียวกัน ขวดจึงค่อนข้างใหญ่ แต่ว่าพกพาง่ายอยู่นะคะ ไม่ถึงกับว่าใช้แล้วจะใหญ่ ใส่กระเป๋าลำบาก เพราะส่วนตัวพิกุลเองคิดว่าพวกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเราเองสามารถใช้ไซส์ใหญ่ได้ เพราะไม่ต้องยกไปไหนมาไหนบ่อยๆค่ะ ><


     มาถึงชิ้นที่ 2 “Repleo Essence Plus” ซึ่งเป็นเอสเซ้นส์สูตรอ่อนโยนที่เหมาะกับทุกสภาพผิว แนะนำเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนที่ขาดการบำรุงผิวหรือผิวแห้งกร้านค่ะ ปกติแล้วพิกุลจะใช้เอสเซ้นส์ก่อนครีมนะคะ เพราะการลงสกินแคร์มีหลักง่ายๆ คือ เราควรลงผลิตภัณฑ์ที่เป็นน้ำใสๆ ก่อนแล้วค่อยลงครีมที่มีความเข้มข้นมาขึ้นไปเรื่อยๆตามลำดับค่ะ


     เอสเซ้นส์นี้มีส่วนช่วยเรื่องความชุ่มชื้น ช่วยบำรุงผิวแห้งกร้านและช่วยเรื่องความกระจ่างใสของผิวหน้าค่ะ 


     หลังจากเปิดฝาขวดออกมาก็เจอ… ฟอยล์สีเงินปิดปากขวดไว้อีกทีค่ะ เพราะเอสเซ้นส์มีลักษณะเป็นน้ำใสๆ เลยต้องมีการซีลขวดเพื่อป้องกันการหกเลอะเทอะกันหน่อยเนอะ เวลาเราตั้งเอสเซ้นส์ไว้ที่อุณหภูมิห้อง เอสเซ้นส์จะไม่มีฟองนะคะ ในรูปด้านล่างนี้ที่เห็นเป็นฟองเกิดจากการเคลื่อนย้ายขวดเอสเซ้นส์ของพิกุลเองค่ะ เพราะว่ากึ่งเดินกึ่งวิ่งนำเอสเซ้นท์ไปถ่ายบรรยากาศในสวนค่ะ (สารภาพผิด) ฮ่าๆ


     เอสเซ้นส์มีลักษณะเป็นน้ำใสๆ ไม่มีสี สามารถใช้ได้ 2 แบบนะคะ คือการหยดลงฝ่ามือแล้วค่อยๆ ทาลงใบหน้า ตบแบบเบาๆ ให้เอสเซ้นส์ซึมลงบนผิว กับวิธีใช้อีกแบบคือ การใช้สำลี โดยให้หยดเอสเซ้นส์ 2–3 หยดลงบนสำลี แล้วลูบไล้ให้ทั่วใบหน้า เช้า-เย็นค่ะ ในส่วนของพิกุลนั้น ชอบวิธีใช้แบบแรกค่ะ สะดวกดี 5555


     จบขั้นตอนการบำรุงผิวไปแล้วก็มาถึง “Repleo Cleanser” ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ขาดไม่ได้เลย นั่นคือ การทำความสะอาดผิวหน้าค่ะ ตัวนี้เป็นเจลล้างหน้าที่ทำความสะอาดผิวหน้าและเมคอัพอย่างอ่อนโยน ที่สำคัญไม่มีสาร SLS ค่ะ 
     Note: SLS หรือ (Sodium Lauryl Sulfate) คือสาร สารลดแรงตึงผิว ที่มักพบในผลิตภัณฑ์ซักล้างและเครื่องสำอางค่ะ โดยแบรนด์ต่างๆ มักจะนำ SLS เป็นสารเพิ่มความชุ่มชื้น หรือใช้เป็นตัวทำละลาย ซึ่ง SLS อาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองได้และในประเทศไทยก็มีคนที่แพ้สาร SLS อยู่เป็นจำนวนมากเหมือนกันค่ะ


      ในส่วนของสารที่ช่วยเรื่องความชุ่มชื้นในคลีนเซอร์ของ Repleo นี้จะเป็น Hyaluronic Acid ที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื่นอย่างเป็นธรรมชาติค่ะ


     เจลล้างหน้านี้เหมาะสำหรับทุกสภาพผิวค่ะ ไม่มีพาราเบน ไม่มีแอลกอฮอลล์และสารผลัดผิว ส่วนวิธีใช้นั้นก็เป็นวิธีใช้แบบง่ายๆเลย คือการกดปั๊มเบาๆ 1–2 ครั้ง แล้วล้างให้ทั่วใบหน้า ไรผมและลำคอ ต่อจากนั้นก็ล้างเจลล้างหน้าออกด้วยน้ำสะอาด เป็นประจำเช้า-เย็น


     มาลองดูประสิทธิภาพการทำความสะอาดของเจลล้างหน้า Repleo กันค่ะ พิกุลทดสอบด้วยการใช้ลิปแมทที่สีเข้มมากและติดทนมากกก เขียนลงบนฝ่ามือ 


     หัวปั๊มไม่แข็ง กดเจลง่ายดีค่ะ กดเจลล้างหน้าใส่มือแล้วมาลองล้างกันค่ะ


     พิกุลไม่ได้แนะนำให้ใช้เจลล้างหน้าล้างเครื่องสำอางแบบตัวเดียวนะคะ หมายถึงว่าบางคนอาจจะมีการใช้คลีนซิ่งที่ทำความสะอาดตาและปากก่อนแล้วค่อยใช้เจลล้างหน้าอีกครั้ง อันนั้นพิกุลก็เห็นด้วยค่ะ ถ้าเราแต่งหน้าแน่นๆ ใช้ตัวเดียวอาจจะไม่อยู่เนอะ ใช้คลีนซิ่งเฉพาะจุดล้างออกก่อนก็ดีค่ะ อันนี้จะทดสอบประสิทธิภาพให้ดูกันเนอะ เลยใช้เจลล้างหน้าล้างลิปแมทแบบตรงๆ เลย


     ถูวนแบบเบาๆ ลิปหลุดออกง่ายอยู่เหมือนกันค่ะ


     พอล้างน้ำออกอีกครั้งเห็นได้ชัดเจนเลยค่ะ ว่าเจลล้างหน้าล้างออกได้เกือบหมดเลย ถ้าจ้องแบบดีๆ อาจจะยังมีร่องรอยลิปสติกอยู่บ้าง แต่รอยนั้นบางมากๆ เลยค่ะ เวลาใช้เจลล้างหน้ามาล้างลิปแมท ล้างได้ขนาดนี้ถือว่าล้างได้สะอาดดีมากเลยค่ะ


     จบไปแล้วนะคะ สำหรับการรีวิวชุดบำรุงผิวจาก Repleo เพื่อนๆ มีความเห็นว่ายังไงกันบ้างเอ่ย ส่วนตัวพิกุลชอบค่ะ มีเกณฑ์ซื้อใช้ต่อแน่ๆ สำหรับคนที่ผิวแพ้ง่าย หรือว่าเคยใช้ครีมเถื่อนจนผิวติดสารมา ลองซื้อ Repleo มาใช้สัก 1 ชุด โปรดักส์เขาอ่อนโยนมากๆ วางใจได้จริงๆค่ะ


     สำหรับใครที่สนใจซื้อสามารถหาซื้อ Repleo ได้ที่ WATSONS, LAZADA หรือ SHOPEE แต่ถ้าใครอยากหาข้อมูลและอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม พิกุลแนะนำให้ลองเข้าไปเยี่ยมแฟนเพจของทางแบรนด์ก่อนค่ะ จิ้มที่นี่เลย -> Facebook หรือ Website


     มาถึงตอนท้ายรีวิวแล้วค่าาา เอาเป็นว่า พิกุลขอจบการรีวิวไว้แต่เพียงเท่านี้นะคะ ไว้เจอกันใหม่รีวิวหน้า บ๊ายบายค่ะ



มาเป็นเพื่อนกับพิกุลได้ที่
Facebook : pikulham
Twitter : pikulham 

Instagram : pikulham

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Review ❥ สกินแคร์แบรนด์ดัง Riviera Suisse

สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้พิกุลมีสกินแคร์จะมารีวิวให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันค่ะ บางคนอาจจะเคยเห็นแบรนด์ Riviera Suisse (รีเวียร่า สวิซ) นี้ตามร้านวัตสันกันบ้างแล้ว จากชื่อก็อาจจะพอเดากันได้ว่า เป็นเวชสำอางที่นำเข้าจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตอนนี้พิกุลได้เซตใหญ่มาลองแล้วค่ะ มาดูกันดีกว่าเนอะว่าแต่ละตัวน่าสนใจตรงไหนบ้าง หาคำตอบได้ในบล็อกนี้เลยค่ะ 5 ตัวที่พิกุลจะนำมารีวิวในวันนี้คือ Face Balm, Face Balm Night, Eye Gel Night, Face Skin Control และ Face Perfector นะคะ เริ่มกันที่ตัวแรกเลยค่ะ เป็น Riviera Suisse Face Balm SPF 30PA+++ เป็นครีมบำรุงผิวหน้าที่มีสารกันแดดในตัวเลย ถ้าเพื่อนๆ ไม่ได้ไปออกกลางแจ้ง แดดจัดๆ SPF 30 ก็ถือว่าโอเคสำหรับการปกป้องแสงแดดในชีวิตประจำวันนะคะ  แพ๊กเกจเป็นขวดพลาสติก เวลาใช้ให้หมุนฝาขวดเพื่อปลดล็อก กดฝาเบาๆ เนื้อครีมจะดันออกมาค่ะ วิธีใช้ง่ายๆ เลยก็คือใช้ทาทั่วใบหน้าเพื่อบำรุงผิว ตัวนี้เป็น Day Cream ไว้ใช้ทาตอนกลางวันนะคะ เพราะว่ามีสารกันแดดด้วย จุดเด่นของ รีเวียร่า สวิซ เฟซ บาล์มตัวนี้คือไม่มีพาราเบน ไม่มีแอลกอฮอล์ค่ะ นอกจากจะมีสารกันแดดแล้วยังมี Vitamin E ที่...

Review ❥ ลูกชิ้นจัง ร้านลูกชิ้นปลากรอบๆ อร่อยๆ [Look Chin Jung]

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ วันนี้พิกุลมีรีวิวเรื่องกินมาฝากอีกแล้วค่ะ คือพิกุลมีโอกาสพาน้องสาวไปเดินเที่ยวที่เอ็มควอเทียร์มา ระหว่างที่เดินๆ อยู่นั้น ก็เกิดความหิวอยากทานนู่นทานนี่ขึ้นมาค่ะ ด้วยความที่พิกุลกับน้องสาวทานข้าวไปเรียบร้อยแล้ว เลยตั้งใจหาอะไรเบาๆ ทาน เดินไปเดินมา ก็มาพบกับร้านลูกชิ้นจัง ที่เป็นลูกชิ้นปลาทอดกรอบ ราคาไม่แรง ก็ตัดสินใจเลยค่ะ ทานลูกชิ้นนี่แหละ เพราะเคยทานแถวบ้านก็รสชาติดีค่ะ  ร้านลูกชิ้นจังจะเป็นร้านลูกชิ้นทอดกรอบแบบแฟรนไชส์นะคะ พิกุลเห็นแฟรนไชส์ร้านนี้หลายที่เลย ตอนแรกไม่คิดว่าจะเจอที่เอ็มควอเทียร์นะคะเนี่ย เมนูลูกชิ้นจังจะมีทั้งหมดสองแบบนะคะ คือ ลูกชิ้นจัง: เป็นลูกชิ้นปลาแบบเรียวยาว คล้ายๆ ลูกชิ้นรักบี้ของเอ็มเค ยากูซ่า: จะเป็นลูกชิ้นลูกกลมๆ ทอดกรอบเหมือนลูกบอลค่ะ พิกุลจัดการสั่งแบบผสม คือมีลูกชิ้นจัง 6 ลูกและยากูซ่า 8 ลูกค่ะ กล่องนี้ราคา 60 บาท เพื่อนๆ บางคนที่อ่านอาจจะคิดว่า กล่องละ 60 บาทเลยหรอ ทำไมราคาสูงจัง ส่วนตัวพิกุลมองว่าไม่แพงนะคะ ถ้าลูกชิ้นที่เราซื้อมานั้นมีคุณภาพ จากที่ติดตามข่าวคราวมา พิกุลทราบมาว่าทางแบรนด์ลูกชิ้นจังนี่เค้าสร้างแบรนด์แล...

Review ❥ ทำงานจนไม่มีเวลา ไม่ชอบออกกำลังกาย มาลองนี่ กาแฟ บิวติ สริน ไคโตซาน [Beauti Srin]

สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้พิกุลมีตัวช่วยดีๆ มารีวิวให้ทุกคนอ่านกันค่ะ เชื่อว่าทุกคนน่าจะเป็นแบบพิกุลคือ เป็นคนที่ทำงานจนไม่มีเวลา ไม่ค่อยชอบออกกำลังกาย เผลออีกที กางเกงตัวเดิมก็แทบจะติดกระดุมไม่ได้ ฮือ แบบนี้ไม่โอเคเลยนะคะ สำหรับใครที่กังวลเรื่องน้ำหนัก พิกุลอยากจะแนะนำกาแฟที่ตัวเองทดลองกินอยู่ค่ะ เป็นกาแฟของ Beauti Srin ตัวนี้ดียังไงมาอ่านกันเลยค่ะ กาแฟบิวติสรินตัวนี้เป็นกาแฟที่ผสมไคโตซานและถั่วขาวค่ะ ความพีคคือตัวนี้ดักจับไขมันและแป้งในซองเดียว จะช่วยให้เราเผาผลาญได้ดีขึ้น ที่สำคัญยังมีไฟเบอร์ที่ช่วยทำให้เราอิ่มนาน ไม่หิวง่าย 1 ซองนี้จะมีไฟเบอร์ถึง 9 กรัมเลยค่ะ วิธีดื่มให้เพื่อนๆ ดื่มก่อนอาหาร 15–20 นาทีค่ะ ดื่มได้วันละ 1–2 ซอง ส่วนตัวพิกุลยังเริ่มดื่มกาแฟ บิวติ สริน ไคโตซานวันละ 1 ซองอยู่ค่ะ รู้สึกได้เลยดื่มแล้วอยู่ท้อง ทานข้าวอิ่มเร็วขึ้น แถมรู้สึกว่าระบบขับถ่ายเราดีขึ้นด้วยค่ะ จากที่ 2–3 วันถ่ายที ตอนนี้เริ่มกลับมาถ่ายทุกวันแล้วค่ะ รสชาติของกาแฟ บิวติ สริน ไคโตซานนี้อร่อยนะคะ ถึงจะเป็นกาแฟที่ช่วยควบคุมน้ำหนักแต่ไม่ขมมากเกินไป ตัวนี้ดื่มง่าย รสชาติอร่อยเลยทีเดียวค่ะ 1 ถุง...